1. อาหารเสริมเพื่อ “สุขภาพจิต” (Mental Wellness Supplements)
ความเครียดและภาวะนอนไม่หลับเป็นปัญหาใหญ่
👉 มาแรง: Ashwagandha, L-Theanine, GABA, 5-HTP, Magnesium
👉 จุดขาย: ช่วยลดความวิตกกังวล เพิ่มสมาธิ พักผ่อนได้ดีขึ้น
2. อาหารเสริมแนว “บำรุงผิวจากภายใน” (Beauty from Within)
ยังคงฮิตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่ม Anti-aging และ Skin Glow
👉 มาแรง: คอลลาเจนเปปไทด์จากปลา, Astaxanthin, Ceramide, Hyaluronic Acid
👉 จุดขาย: ผิวเด้ง ใส สุขภาพดี ไม่ต้องพึ่งเมคอัพ
3. อาหารเสริม “สายคลีน” และมังสวิรัติ (Vegan/Plant-based Supplements)
ตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มรักสุขภาพ/สายแพลนต์เบส
👉 มาแรง: วิตามินจากพืช, โปรตีนถั่ว, โปรตีนข้าว, วิตามิน B12 จากพืช
👉 จุดขาย: ไม่มีสารจากสัตว์, เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
4. พรีไบโอติก & โพรไบโอติก เพื่อสุขภาพลำไส้ (Gut Health)
ลำไส้ดี = ภูมิคุ้มกันดี = ผิวดี = สุขภาพจิตดี
👉 มาแรง: Synbiotics, Postbiotics, FOS, Inulin, Bacillus coagulans
👉 จุดขาย: ช่วยย่อยอาหาร เสริมภูมิ แก้ท้องอืด ผิวพรรณสดใส
5. อาหารเสริมเฉพาะบุคคล (Personalized Nutrition)
แนวโน้มใหม่ที่ใช้ผลตรวจสุขภาพหรือ DNA มาปรับสูตรเฉพาะบุคคล
👉 มาแรง: โปรแกรมเสริมอาหารแบบเจาะจงตามกลุ่มเลือด / อายุ / เพศ
👉 จุดขาย: “คุณเลือกเองได้ว่าอะไรเหมาะกับร่างกายคุณที่สุด”
6. อาหารเสริมผู้สูงอายุ / วัยทำงาน (Active Aging)
เน้นดูแลข้อ กระดูก สมอง และการฟื้นฟูร่างกาย
👉 มาแรง: Calcium, Vitamin D3, Glucosamine, CoQ10, Resveratrol
👉 จุดขาย: มีแรงทำงาน ร่างกายสดใสทุกวัย
7. ซอฟต์เจล / รูปแบบใหม่ที่ทานง่าย (Convenience Matters)
ลูกค้าต้องการอาหารเสริมที่ “กินง่าย ไม่ยุ่งยาก”
👉 มาแรง: เจลลี่, ผงชงดื่ม, สเปรย์ใต้ลิ้น, Gummies
👉 จุดขาย: เหมาะกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ พกง่าย ทานสะดวก
อินโนเวชันที่น่าจับตา
* Nano-delivery: เทคโนโลยีที่ช่วยให้การดูดซึมสารอาหารดีขึ้น
* AI-Powered Nutrition: ใช้ปัญญาประดิษฐ์วิเคราะห์สุขภาพ เพื่อแนะนำสูตรที่เหมาะสม
* Sustainable Packaging: บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ หรือรีฟิล ลดขยะ
ข้อแนะนำสำหรับแบรนด์อาหารเสริม
* เน้น ความปลอดภัยและโปร่งใส (แหล่งที่มาวัตถุดิบ, ผลวิเคราะห์)
* สื่อสารจุดขายชัดเจน เช่น “ช่วยลดความเครียด” “ผิวโกลว์จากภายใน”
* เลือก โรงงาน OEM/ODM ที่มีนวัตกรรมและรองรับแนวโน้มตลาด